
โลกถึงยุคหลายขั้ว
ประธานของธนาคารกลางยุโรป (ECB)เป็นนางคริสว่ากล่าวน ลาการ์ด ได้รับชวนเป็นองค์ปาฐกที่สถาบันมันสมองของสหรัฐอเมริกา CFR-Council on Foreign Relations (แก่ 102 ปี)
ข่าว ที่มหานครนิวยอร์ก ปรากฏว่า คุณได้ไปเปิด (เคาะ) สมองของเหล่านักปราชญ์, นักธุรกิจ ตลอดจนเหล่านายทัพของสหรัฐอเมริกา ที่บางทีอาจกำลังคลั่งไคล้ในความใหญ่โตของสหรัฐอเมริกา ที่จะยังอยู่ชั่วนิจนิรันดร์ หรืออาจมีนิดหน่อยที่เริ่มมองเห็นจักรวรรดิอเมริกา (American Empire) ที่กำลังพบเจอกับการสูญเสียอิทธิพลในความน่าไว้ใจ แล้วก็ความยิ่งใหญ่ ก็เลยเพียรพยายามโหนเหนี่ยวรั้งให้อเมริกายังยิ่งใหญ่ดังเช่นว่าในอดีตกาล เพื่อชะลอการล้มลงของจักรวรรดิเป็นต้นว่าที่เกิดที่จักรวรรดิโรม หรือเปล่ากี่ร้อยปีที่จักรวรรดิประเทศฝรั่งเศส, จักรวรรดิอังกฤษได้ล้มครืนลงมา คุณได้กล่าวถึงความเคลื่อนไหวคู่ค้าในตอนการรบกับวัววิด ที่เกิดการล็อกดาวน์ในประเทศต้นทางที่ผลิต ทั้งยังแร่เริ่ม ข่าวเศรษฐศาสตร์ และก็วัสดุอุปกรณ์ต่างๆก็ทำให้ประเทศผู้ประกอบผลิตภัณฑ์จุดหมายปลายทางได้รับผลพวงอย่างยิ่ง และจากนั้นก็กำเนิดการสู้รบยูเครนที่ทำให้ทางขนสินค้าถูกขวางอีกที ตอกย้ำวิกฤตจากการสู้รบเชื้อไวรัส คุณได้ชี้แจงว่า การคว่ำบาตรทางด้านการเงิน (นอกจากคว่ำบาตรกิจการค้าแล้วก็การลงทุนต่อรัสเซีย) ทำให้รัสเซียดิ้นรนเพื่อสร้างผู้ส่งเสริมเพื่อฝ่าด่านการเช็ดกล้อมในตลาดเงินตรา แล้วรัสเซียก็ไปพบคู่คิดที่เป็นประเทศที่เข้ากันได้ด้วยดี ไม่ว่าจะเป็นจีน, ประเทศอินเดีย ที่ทั้งสองเป็นประเทศที่หิวพลังงานมาป้อนโรงงานผลิตอุตสาหกรรมของเขา คุณสรุปว่า รัสเซียเพียรพยายามฝ่าวงล้อมได้โดยเพียรพยายามชักชวน รวมทั้งตั้งกรุ๊ปการค้าขายการลงทุนสนิทแน่นกับจีน ประเทศอินเดีย และบราซิล แล้วก็ประเทศในตะวันออกกลาง เพื่อประเทศในกรุ๊ป (Bloc) นี้ ทำธุรกรรมสำหรับการค้าการลงทุน, การแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี โดยการหันมาใช้สกุลเงินแคว้น (แม้กระทั้งอาเซียนเองก็เห็นดีเห็นชอบกับแนวทางนี้)