ไม่ตกกระแส! ‘งานรุ่ง- งานตก’ อาชีพไหนจะรอดในปี 2023
World Economic Forum รายงานอาชีพหรืองานที่จะรุ่งและก็หล่นในปี 2023-2027 ซึ่งงานที่รุ่งส่วนมากจะเป็นงานสายเทคโนโลยี AI ความยั่งยืนมั่นคง
เทคโนโลยี วิศวกรที่เกี่ยวเนื่องกับสภาพแวดล้อม ฟินเทค แล้วก็นักวิเคราะห์ข้อมูล อาชีพที่ต้องระมัดระวังจะสะดุดเรื่องงาน เป็นสายอาชีพนายว่าจ้างสามารถใช้เทคโนโลยีเข้ามาดำเนินการได้ ยกตัวอย่างเช่น งานด้านธุรการหรือผู้ช่วย ธุรการบริการไปรษณีย์ พนักงานบัญชี พนักงานที่มีหน้าที่สำหรับขายตั๋ว คีย์ข้อมูล เลขาทั่วๆไปและก็เลขาผู้บริหาร ไม่ว่าจะทำตำแหน่งงานไหน แม้มีความถนัดด้านความนึกคิดพินิจพิจารณา AI ความสร้างสรรค์ ความชำนาญการรับทราบความรู้ความเข้าใจของตน การปรับตัวสามารถอยู่รอดได้ในสมัยที่มีการเปลี่ยนอย่างเร็ว ‘ที่ประชุมเศรษฐกิจโลก หรือ ของ World Economic Forum’ ได้รายงาน Future of Jobs 2023 กล่าวว่า เทคโนโลยีใหม่ๆและก็วิกฤตด้านสภาพภูมิอากาศที่ทวีความร้ายแรงขึ้น กำลังแปลงภูมิทัศน์ของโลกการทำงานในอัตราที่เร็วอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน โดยตั้งแต่ปี 2023- 2027 บอกว่าจะมีการสร้างงานใหม่ 69 ล้านตำแหน่งทั้งโลก ช่วงเวลาเดียวกันตำแหน่งงานอีก 83 ล้านตำแหน่งก็คาดว่าจะหายไป เมื่อหักลบกันตำแหน่งงานจะต่ำลงสุทธิ 14 ล้านตำแหน่ง ทั้ง จากการสำรวจบริษัท 803 ที่ ที่ว่าว่าจ้างบุคลากรทั้งหมดทั้งปวง 11.3 ล้านคนภายใน 45 เศรษฐกิจทั่วทั้งโลก World Economic Forum ได้จัดลำดับ 10 ตำแหน่งงานที่บริษัทจำนวนมากคาดว่าจะเติบโตพุ่งแรงสุด แล้วก็ลดน้อยลงเร็วสุดในตอน 5 ปีด้านหน้า ปี 2566-2570 ความอยากได้ผู้ชำนาญด้าน ปัญญาประดิษฐ์ AI แล้วก็ Machine Learning คาดว่าจะมากขึ้นถึง 40% หรือมีความต้องการเพิ่มโดยประมาณ 1 ล้านตำแหน่งทั่วทั้งโลกในอีก 5 ปีด้านหน้า
เพราะว่าบริษัทต่างๆจะใช้ประโยชน์จาก AI เพื่อทำให้แนวทางการทำงานเป็นอัตโนมัติเพิ่มมากขึ้น และก็ประเมินสิ่งที่ต้องการของลูกค้าก้าวหน้าขึ้น
ท่ามกลางการใช้แรงงานด้านอื่นๆ สำหรับในการนำเทคโนโลยีมาใช้ ในอีก 5 ปี ข่าวเทคโนโลยี ด้านหน้า กว่า 85% ของหน่วยงานที่ทำแบบสอบถามกล่าวว่า การนำเทคโนโลยีใหม่รวมทั้งล้ำหน้ามาใช้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งการเข้าถึงดิจิทัลที่กว้างขึ้น เป็นแถวโน้มที่จะขับความเคลื่อนไหวในหน่วยงานของตัวเองเยอะที่สุด การนำมาตรฐานด้านสภาพแวดล้อม สังคม และก็การดูแลดูแลที่ดี(ESG) ข้างในหน่วยงานที่ขยายตัวเพิ่มมากขึ้นก็จะทำให้เกิดผลเสียเหมือนกัน แนวโน้มที่ก่อให้เกิดผลกระทบสูงที่สุดรองลงมาเป็นเศรษฐกิจมหภาค ดังเช่นว่าค่ายังชีพที่สูงขึ้นรวมทั้งการเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ผลพวงของการลงทุนเพื่อขับการเปลี่ยนผ่านสู่สีเขียวได้รับการยินยอมรับว่าเป็นเทรนด์มหภาคที่มีผลเสียมากมายเป็นชั้น 6 รองลงมาเป็นการขาดแคลนลานอุปทานและก็ความมุ่งมาดของลูกค้าเกี่ยวกับข้อความสำคัญทางด้านสังคมรวมทั้งสภาพแวดล้อม ยิ่งไปกว่านั้น ความมานะบากบั่นสำหรับการลดการปลดปล่อยก๊าสคาร์บอน รวมทั้งระเบียบด้านสภาพแวดล้อมที่เอาจริงเอาจังขึ้น ไปจนกระทั่งการปรับห่วงโซ่อุปทานให้ใส่รับกับเขตแดนเยอะขึ้น (Localization) ก็ทำให้เกิดตำแหน่งงานที่ดีต่อสภาพสิ่งแวดล้อมล้นหลามในอุตสาหกรรมต่างๆเป็นต้นว่า ผู้ที่มีความชำนาญด้านความมั่นคงและยั่งยืน แล้วก็วิศวกรพลังงานหมุนวน ส่วนการประยุกต์เทคโนโลยีนั้น ข้อมูลจำนวนมากมายมหาศาล(big data) คลาวด์คอมพิวติ้ง และก็ AI ได้โอกาสสูงที่จะเอาไปใช้ ข้อมูลยังบอกให้เห็นถึงผลพวงของการค้าขายแล้วก็กิจการค้าแบบดิจิทัล แพลตฟอร์มดิจิทัลแล้วก็แอปเป็นเทคโนโลยีที่หน่วยงานที่ตอบแบบสอบถามจะประยุกต์ใช้สูงที่สุด
แนะนำข่าวเทคโนโลยี อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : ‘ทรู’ เสิร์ฟกลยุทธ์ ‘5 แกน’ รุกตลาดมือถือครึ่งปีหลัง
