ไอเอสอ้างอยู่เบื้องหลังเหตุกราดยิงมัสยิดอิหร่าน ดับ 15 คน

กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) อ้างตัวอยู่เบื้องหน้าเบื้องหลังเหตุจู่โจมมัสยิดนิกายชีอะห์ ทางตอนใต้ของประเทศอิหร่าน ซึ่งทำให้มีคนตายขั้นต่ำ 15 คน

รูปภาพที่เอามาจากกล้องวงจรปิด เปิดเผยให้มองเห็นเรื่องราวตอนที่หนึ่งในมือสังหารเปิดฉากยิงในมัสยิดชาห์ ชีรักห์ เมืองชีราซ (Shiraz) ทางตอนใต้ของประเทศอิหร่าน สื่อของทางการ แถลงการณ์ว่า มือสังหารเริ่มยิงพนักงานมัสยิดก่อน จากนั้น ลูกกระสุนค้างในลำกล้องถ่ายภาพ ทำให้ประชาชนดีบากบั่นจะวิ่งเข้าไปสกัด ซึ่งเป็นตอนเดียวกับที่ผู้ร้ายปรับปรุงปืนเสร็จ และก็ถือขึ้นมายิงผู้ที่ไล่หลัง อาห์มัด วาฮิดี (Ahmad Vahidi) รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยประเทศอิหร่านเปิดเผยว่า สถานะการณ์เกิดขึ้นในช่วงเวลาเย็น ซึ่งมีคนสวดมนต์อยู่ข้างในมัสยิดเยอะๆ พื้นฐาน มีรายงานคนตายแล้วขั้นต่ำ 15 คน ในปริมาณนี้ 2 คนเป็นเด็ก และก็อีก 1 คน เป็นหญิง ยิ่งไปกว่านี้ ยังมีคนได้รับบาดเจ็บอีก 40 คน ข้างหลังเกิดเหตุ กองกำลังความมั่นคงยั่งยืนประเทศอิหร่านสั่งล้อมมัสยิดเอาไว้

ด้านผู้นำ อิบราฮิม ไรซี (Ebrahim Raisi) ออกคำอธิบายแสดงความเศร้าใจกับครอบครัวผู้สูญเสีย รวมทั้งตำหนิเหตุก่อเหตุร้ายแรงที่เกิดขึ้น พร้อมสัญญาจะทวงแค้น เพื่อสอนบทเรียนให้กับคนที่อยู่เบื้องหน้าเบื้องหลัง ซึ่งคาดการณ์ว่าน่าจะเป็นกรุ๊ปหัวรุนแรงนิกายซุนนี โดยช่วงนี้ ทางการจับชายที่เกี่ยวเนื่องได้แล้ว 2 คน ส่วนอีกคนยังอยู่ระหว่างแอบหนี สำนักข่าวอามัก (Amaq) สื่อของกรุ๊ปไอเอส ออกมากล่าวมาว่า สมาชิกของไอเอสเป็นผู้ก่อเรื่องจู่โจมคราวนี้ โดยมุ่งเป้าทำร้ายกรุ๊ปผู้ทรยศเปลี่ยนแปลงศาสนา ซึ่งในที่นี้ คือ ชาวอิสลามนิกายชีอะห์ ในประเทศอิหร่าน สำหรับเมืองชีราซ นับว่าเป็นจุดหมายที่ได้รับความนิยมสำหรับนักแสวงบุญ และก็นักเดินทาง เหตุจู่โจมคราวนี้เกิดขึ้นในตอนที่ประเทศอิหร่านกำลังพบเจอเหตุประชุมคัดค้านต้านรัฐบาล ซึ่งมีต้นเหตุจากการตายของ มาห์ซา อามินี หญิงสาวชาวเคิร์ดวัยเพียงแต่ 22 ปี ที่ถูกตำรวจศีลธรรมจับกุมตัวเมื่อเดือน เดือนกันยายน เพราะว่าไม่สวมฮิญาบ